Translate

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ราคะ

ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



                                             ฝนย่อมรั่วรดเรือนที่มุงไม่ดีได้ฉันใด
                                    ราคะย่อมเสียดแทงจิตที่ไม่ได้อบรมแล้วได้ฉันนั้น.
                                            ฝนย่อมรั่วรดเรือนที่มุงดีแล้วไม่ได้ฉันใด
                                    ราคะก็ย่อมเสียดแทงจิตที่อบรมดีแล้วไม่ได้ฉันนั้น.

อรรถว่า....จิตที่ไม่ได้รับการขัดเกลา ฝึกอบรมเจริญสติ เจริญปัญญา ย่อมจะต้องประสบกับความทุกข์เพราะถูกกิเลสครอบงำ.....กิเลส ได้แก่  ราคะ หมายถึง จิตที่ประกอบด้วยความยินดี พอใจ ติดข้อง ต้องการในรูป เสียง กลิ่น รส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว และความนึกคิด  จึงเปรียบเสมือนบ้านที่มุงหลังคาไม่ดี หลังคาย่อมรั๋ว เมื่อฝนตกก็ลำบากและเดือดร้อน.


จิตที่ได้รับการขัดเกลา ฝึกอบรมเจริญสติ เจริญปัญญาอยู่เนือง ๆ  ย่อมไม่ประสบกับความทุกข์เพราะว่ากิเลสครอบงำไม่ได้..... กิเลส ได้แก่ ราคะ หมายถึงความยินดีพอใจ ติดข้อง ต้องการในสิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กายและทางใจย่อมไม่มี  เปรียบเสมือนบ้านที่มุงหลังคาดีแล้ว หลังคาย่อมไม่รั่ว เมื่อฝนตก ก็ไม่ลำบากและไม่เดือดร้อน.

                                       
                                                    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

                                                 ................................           

สาระ,ไร้สาระ

                                        

ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


                                              ชนเหล่าใด  มีปกติรู้ในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ
                                        ว่าเป็นสาระ  และเห็นในสิ่งอันเป็นสาระว่า  
                                        ไม่เป็นสาระ  ชนเหล่่านั้น  มีความดำริผู้เป็นโคจร
                                        ย่อมไม่ประสบสิ่งอันเป็นสาระ  
                                               
                                              ชนเหล่าใดรู้สิ่ง อันเป็นสาระ  โดยความ
                                       เป็นสาระ  และสิ่งที่ไม่เป็นสาระ  โดยความไม่เป็น           
                                       สาระ  ชนเหล่านั้น มีความดำริชอบเป็นโคจร 
                                       ย่อมประสบสิ่งเป็นสาระ
  
อรรถว่า...บุคคลใดมีปกติเป็นผู้มีความเห็นผิด  มีความเห็นไม่ตรงตามความเป็นจริงว่า  สิ่งใดที่ไม่เป็นสาระหรือไม่มีประโยชน์  กลับเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีสาระหรือมีประโยชน์  และเห็นว่าสิ่งมีสาระหรือเป็นประโยชน์  เป็นสิ่งไร้สาระหรือไร้ประโยชน์  บุคคลเหล่านั้น ย่อมเป็นผู้ไม่่มีโอกาส ที่จะประสบกับสิ่งที่เป็นสาระประโยชน์เลย.....

บุคคลใดเป็นผู้ตรง มีความเห็นตรงตามความเป็นจริงของลักษณะสภาพธรรม  รู้ว่าสิ่งอันใดเป็นสาระประโยชน์  มีความเห็นตรงตามความเป็นจริง ว่าสิ่งนั้นมีสาระหรือเป็นประโยชน์  และมีความเห็นตรงว่าสิ่งไม่เป็นสาระประโยชน์  ว่าไม่เป็นสาระประโยชน์  บุคคลเหล่านั้น ย่อมจะประสบกับสิ่งที่มีสาระประโยชน์ได้  

                                                        
                                                  
                                                       ขออนุโมทนาบุญค่ะ   

                                               ...........................................