ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย |
ทุกคนปรารถนาที่จะได้ลาภต่าง ๆ คือ ลาภทางตา ได้เห็นสิ่งที่สวยงาม สิ่งที่น่าพอใจ.... ทางหู ได้ยินเสียงที่ไพเราะ.....ทางจมูก ได้กลิ่นที่ดี......ทางลิ้น ได้ลิ้มรสที่อร่อย...... ทางกาย ได้กระทบสัมผัสที่สบายกาย ไม่มีทุกข์ มีแต่ความสุข นอกจากนั้นชาวโลกยังปรารถนา "ยศ" แต่ว่ายศจริง ๆ นั้นต้องหมายถึง "ความดี" ถ้าไม่ใช่ความดีก็ไม่ใช่ยศที่แท้จริง ความไม่ดีเป็นเกียรติยศไม่ได้ การมียศมีตำแหน่งการงานซึ่งชาวโลกเข้าใจว่าเป็นเกียรติยศนั้น ถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติดีก็ไม่ใช่ยศที่แท้จริง เพราะยศหรือเกียรติยศหมายถึง ความดี
ลาภอื่นทางโลกไม่ใช่ลาภอันประเสริฐ เพราะเป็นลาภที่ประกอบด้วยโลภะ ความติดข้อง ต้องการ ยินดีพอใจ การที่จะได้ลาภอันประเสริฐนั้น ก็คือขณะใดที่มีความเข้าใจพระธรรม มีความเห็นถูก ขณะนั้นเป็นลาภอันประเสริฐ เพราะฉะนั้น ท่านมีลาภอันประเสริฐแค่ไหน ท่านฟังธรรมศึกษาธรรมเพื่อลาภอันประเสริฐหรือยัง ?
ฟังธรรมและศึกษาธรรมด้วยความศรัทธา เพื่อความเข้าใจ ก็จะได้ลาภอันประเสริฐ การศึกษาพระธรรมก็เพื่อที่จะได้รู้จักชีวิตว่า เกิดมาเพื่ออะไร ไม่ใช่เกิดมาเพื่อกิน นอน ติดข้อง นี่ก็เป็นชีวิตประจำวัน แต่ที่จะได้รู้ความจริงว่า เกิดมาเพื่ออะไร เพื่อให้รู้ความจริงของชีวิต เพื่อความหลุดพ้นจากความทุกข์ เพื่อความหลุดพ้นจากกิเลสทั้งหลาย
เพราะฉะนั้น ก็จะต้องมีความเข้าใจว่า ศึกษาธรรมฟังธรรมเพื่ออะไร ? ก็เพื่อรู้ตามความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เพื่อความเห็นถูกต้อง ไม่ใช่เพื่อลาภอย่างอื่น แต่เพื่อลาภอันประเสริฐ แต่จะรู้ได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่ที่การสะสมมาและมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน
ความเห็นถูกและความเข้าใจถูกเท่านั้น เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในชีวิต ถ้ายังไม่เข้าใจพระธรรมจะเรียกว่ามีลาภอันประเสริฐได้ไหม ? ก็ยังไม่เรียกว่า "ลาภอันประเสริฐ" เพราะฉะนั้น ฟังและศึกษาจนกว่าจะเข้าใจทีละน้อย ฟังและเห็นประโยชน์ของการฟังเมื่อไร เมื่อนั้นก็จะรู้ความหมายของคำว่า "ลาภอันประเสริฐ" ซึ่งเป็นลาภที่เหนือลาภใด ๆ ทั้งปวง
ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์
..........................................