ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น |
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...เปรียบเสมือนท่อนไม้ที่โยนขึ้นไปในอากาศ บางครั้งก็ตกลงทางโคน บางครั้งก็ตกลงทางกลาง บางครั้งก็ตกลงทางปลาย สัตว์ทั้งหลายผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกมัด วิ่งไป ท่องเที่ยวอยู่ บางครั้งก็ไปสู่โลกอื่นจากโลกนี้ บางครั้งก็มาสู่โลกนี้จากโลกอื่น...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงสาร (การเวียนว่ายตายเกิด) นี้ มีที่สุดอันตามไปไม่พบ ไม่ปรากฏเงื่อนเบื้องต้น เบื้องปลายของสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกมัด วิ่งไป ท่องเที่ยวไปอยู่ ควรเพื่อที่จะเบื่อหน่ายคลายกำหนัดในสังขารทั้งปวง ควรที่จะพ้นไปเสีย"
อธิบายว่าการเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์โลก เปรียบเหมือนกับท่อนไม้ที่ถูกโยนขึ้นไปในอากาศ แล้วก็ตกลงมา บางครั้งก็ทางโคนไม้ลงก่อน บางครั้งก็ตกลงทางกลาง บางครั้งก็ตกลงทางปลาย สัตว์โลกทั้งหลายผู้ที่ยังต้องเวียนเกิดเวียนตายท่องเทียวอยู่ เพราะมีอวิชชาความไม่รู้ตามความเป็นจริงของสภาพธรรม มีตัณหาหรือโลภะเป็นเครื่องผูกมัด บางครั้งก็ตายจากโลกนี้ไปสู่โลกอื่น บางครั้งก็จากโลกอื่น มาสู่โลกนี้....สัตว์ทั้งหลายต้องเวียนว่ายตายเกิดหลายภพชาติ เพราะมีอวิชชาแแแแแแแและตัณหาเป็นเหตุปัจจัย หาที่สุดไม่ได้ ไม่มีเบื้องต้นและเบื้องปลาย เพราะฉะนั้นจึงควรที่จะเบื่อหน่ายคลายความยึดมั่นในสังขารทั้งปวง ซึ่งได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
........................................
ขออนุโมทนาในกุศลจิตกับทุกท่านค่ะ